จังหวัดสระแก้ว 11 มีนาคม 2566 / นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย 4 ภูมิภาค “Unlock a Better Life” สร้างโอกาสใหม่ เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า ครั้งที่ 2 จัดระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว อำเภอวัฒนานคร เพื่อให้บริการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
รับชมภาพพิธีเปิด เฟซบุ๊ก ศธ.360 องศา
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตั้งเป้าลดความเดือดร้อนทางด้านหนี้สินให้กับครู โดยที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 108 แห่ง และธนาคารออมสิน ในเรื่องของการลดดอกเบี้ยเงินกู้ การปรับโครงสร้างหนี้ การพักชำระหนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็มีเครือข่ายสถาบันการเงิน หน่วยงานที่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม เข้ามาร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครูในทุกภูมิภาค
นอกจากนี้ สถาบันการเงินก็จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการอบรมให้ความรู้ด้านการเงินกับครู การสร้างวินัยทางการเงิน รวมทั้งการวางแผนการเงิน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาหนี้สินในอนาคตด้วย ซึ่งได้จัดงานขึ้นครั้งแรกที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับกลุ่ม 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และขอนแก่น ซึ่งสามารถช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ครูแบบพุ่งเป้าที่กลุ่มลูกหนี้วิกฤติได้จำนวน 784,661,570.43 บาท
ในส่วนของที่พื้นที่ของภาคตะวันออก 8 จังหวัด ได้รับรายงานว่า มีครูลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินในภาพรวมประมาณกว่า 2,000 ราย จำนวนมูลหนี้ประมาณ 4,252 ล้านบาท โดยเป็นกลุ่มลูกหนี้วิกฤติ 205 ราย จำนวนมูลหนี้ประมาณ 173.4 ล้านบาท ซึ่งจะพุ่งเป้าหมายให้ความช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้วิกฤติเป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ เป็นคนกลางประสานให้ลูกหนี้ได้มาเจรจากับเจ้าหนี้หรือสถาบันการเงิน เพื่อช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนกรณีที่อยู่ในขั้นตอนของการฟ้องร้องต่าง ๆ ก็จะได้ช่วยดำเนินการให้ชะลอเรื่อง และมาปรับโครงสร้างหนี้กันก่อน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีแนวทางในการช่วยเหลือที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของรูปแบบหนี้ ส่งผลให้จำนวนลูกหนี้วิกฤตในภูมิภาคนี้มีไม่มากนัก
“ดังนั้น มหกรรมการเงินเพื่อครูไทย จึงจำเป็นต้องลงมาในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้เจอกันและได้เจรจากันโดยตรง เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครูได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการจัดการปัญหาหนี้ในเชิงรุก ที่จะช่วยให้ครูในกลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทางการเงินสำหรับครูมากยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าการดำเนินการนี้จะช่วยลดหนี้ให้ครูไทยที่มีปัญหามานานได้จริง เพื่อให้ครูไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความรู้ทางการเงินที่ดี และสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการถ่ายทอดองค์ความรู้และจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน และเป็นการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพครู” นางสาวตรีนุช กล่าว
นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า สิ่งที่ ศธ. จะเร่งดำเนินการในอนาคต คือ เจรจากับธนาคารออมสิน ขอลดอัตราดอกเบี้ยให้ครู ไม่ว่าครูจะมีหนี้มากหรือน้อยก็ตาม ส่วนสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแห่งใดให้ดอกเบี้ยสูงเกิน 5.3% ขึ้นไป อาจจะขอไม่ให้หักเงิน ณ ที่จ่าย แต่ถ้าลดลงมาต่ำกว่า 5.3% จึงจะหักให้ ซึ่งจะเป็นมาตรการที่ทำให้ครูไทยทุกคนได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน
สำหรับกิจกรรมภายในงานครั้งนี้ ประกอบด้วยการไกล่เกลี่ยกรณีถูกฟ้องร้องดำเนินคดี/ การปรับโครงสร้างหนี้/ การวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงิน/ การอบรมให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้สิน/ และนิทรรศการการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูของกระทรวงศึกษาธิการ และที่สำคัญจะได้รับการผ่อนปรนและสิทธิพิเศษจากสถาบันการเงินเฉพาะในงานนี้เท่านั้น

ปารัชญ์ ไชยเวช, พบพร ผดุงพล / สรุป
สมประสงค์ ชาหารเวียง, ณัฐพล สุกไทย / ถ่ายภาพ
ใส่ความเห็น