ศธ.ขับเคลื่อน​งานออกแบบกลไกการบริหารและ​การจัดการศึกษา​สู่ภูมิภาค​ (ภาคเหนือ)​

ปลัด​ ศธ.​ “อรรถพล​ สังขวาสี” เร่งขับเคลื่อน​งานออกแบบกลไกการบริหารและ​การจัดการศึกษา​สู่ภูมิภาค​ (ภาคเหนือ)​ เน้นการจัดการศึกษา​สอดคล้อง​บริบทพื้นที่​ และ​ GDP ของประเทศ

ลิงก์ภาพการประชุม Facebook ศธ.360 องศา

จังหวัดลำปาง 6 กุมภาพันธ์​ 2566 –​ กระทรวง​ศึกษาธิการ​ (ศธ.)​ จัด​ประชุม​เชิงปฏิบัติการ​เพื่อออกแบบกลไกการบริหารและ​การจัดการศึกษา​ในระดับพื้นที่ของกระทรวงศึกษาธิการ​ พื้นที่​ภาคเหนือ​ ระหว่าง​วันที่​ 6-7 กุมภาพันธ์​ 2566​ โดยนายอรรพล​ สังขวาสี​ ปลัดกระทรวง​ศึกษาธิการ​ กล่าวเปิดงานผ่านคลิปวิดีโอ​ และมี​นายพีระพล พูลทวี ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายชาตรี​ ม่วง​สว่าง​ ศึกษา​ธิการ​ภาค​ 15, นายกวิน​ เสือ​สกุล​ รอง​ศึกษา​ธิการ​ภาค​ 15​ ปฏิบัติ​หน้าที่​ศึกษา​ธิการ​ภาค​ 16, ศึกษา​ธิการ​จังหวัดกลุ่ม​ภาคเหนือ​ 17 จังหวัด, ผู้​บริหารสถานศึกษา​ และผู้แทนหน่วยงาน​ที่เกี่ยวข้อง​ เข้าร่วมงาน ณ​ ห้องประชุม​เวียงแก้ว​ โรงแรมลำปางเวียงทอง​

ปลัด​ ศธ.​ กล่าวว่า​ ต้องการให้ศึกษาธิการ​ภาคและศึกษา​ธิการจังหวัดเ​ห็นภาพ​บทบาทร่วมกัน โดย​ศึกษา​ธิการ​ภาคเป็นผู้แทนของสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ​ ซึ่ง​จะมีอำนาจหน้าที่เพิ่มเติมอย่างไรที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย​ ส่วนกลาง​ก็จะมอบอำนาจให้ไปดำเนินการขับเคลื่อน​ ในส่วนของศึกษาธิการ​จังหวัดนั้น​ ก็เป็นหน่วยงาน​สำคัญที่จะเชื่อมโยงงานด้านการศึกษา​กับผู้ว่าราชการจังหวัด​ ซึ่ง​นโยบายการศึกษาที่ส่วนกลางจัดไว้มีมากมาย​ ทั้งมาจากงานวิจัย จาก​ผู้ทรงคุณวุฒิ​ ผู้เชี่ยวชาญ​ต่าง​ ๆ เพื่อขับเคลื่อนให้คนแต่ละภูมิภาคมีคุณภาพตามเป้าหมายอย่างชัดเจน

“สิ่งที่เรามาร่วมกันทำในวันนี้​ คือ​ เครื่องมือที่จะขับเคลื่อนการทำงาน​ เรามาวางแผนเรื่องการพัฒนา​กำลังคน​ ซึ่ง​ในเชิงพื้นที่ของภาคเหนือ​ อาชีพสำคัญอันดับ​หนึ่ง​คือเรื่องของการเกษตร​ แต่เราลงทุนการศึกษาด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมมากมาย​ ทำให้เด็ก​เรียนจบมาล้นตลาดแรงงาน​ ไม่ตอบ​โจทย์​ความต้องการของพื้นที่​ ซึ่ง​ผลผลิตเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ GDP เปลี่ยนแปลง​ได้​ ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นแต่ให้ผู้เรียนเรียนจบ​ แต่เราไม่ได้มองเรื่อง GDP ของประเทศ​ ดังนั้น​โจทย์​คือเราจะทำอย่างไรให้กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาในเชิงพื้นที่​ สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่​ และสอดคล้องกับ GDP ของประเทศ​ ตลอดจนทำให้กลไกเกิดเป็นรูปธรรมให้ได้” ปลัด​ ศธ.​ กล่าว

นายสมภพ​ อุณหชาติ​ ผอ.กลุ่ม​พัฒนาระบบ​บริหาร​ สป.ศธ. กล่าว​ว่า​ การ​ประชุม​เชิงปฏิบัติการ​ครั้งนี้​ จัด​ขึ้น​เพื่อให้การขับเคลื่อนการศึกษาของ​ ศธ.​ เป็นเอกภาพ เกิดการบูรณาการในพื้นที่ร่วมกันทุกภาคีเครือข่าย​ ทั้งต้นน้ำ​ กลางน้ำ​ และปลายน้ำ​ รวมทั้ง​ยกระดับคุณภาพของการศึกษาอันเป็นเป้าหมายสูงสุดที่คาดหวังไว้

โดยกลไกที่นำมาลงในพื้นที่นี้ เป็นเครื่องมือที่มีแนวปฏิบัติ​อย่าง​เป็น​ขั้นตอน​ เริ่มจากการออกแบบการบริหารร่วมกัน​ แล้วดำเนินการ​ออกแบบระบบทั้งระบบ​ ทุกระดับ​ ทุกประเภท​ จากนั้น​จะ​กำหนดเจ้าภาพร่วมกันว่าหน่วยงานไหน​จะเข้ามาขับเคลื่อนในช่วงใดบ้างในทั้ง 4 ช่วงวัย​ ได้แก่​ ปฐมวัย​ วัยรุ่น/วัยเรียน​ วัยแรงงาน​ และวัยสูงอายุ​ มีการออกแบบระบบงบประมาณ​ การทำแผนพัฒนาการศึกษาร่วมกับจังหวัดให้สอดคล้องกับแผนของจังหวัด​ รวมทั้งมีการออกแบบชุดโครงการสำคัญในระดับภาค​ พร้อมติดตามประเมินผล​ สร้างแรงจูงใจให้สามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับเครื่องมือที่นำมาลงในพื้นที่ 4 ภาค​นั้น ครั้งแรกลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ​ ซึ่ง​ผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​อุดรธานี​ได้เน้นเรื่องของการสร้าง​คนดี​ มีคุณภาพ​ สอดแทรกหลักสูตรเกี่ยวกับหน้าที่พลเมือง​ ศีลธรรม​ และการเรียนประวัติศาสตร์​ ครั้ง​ที่​ 2 ภาคกลาง​ ผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​สมุทร​สาคร​ เน้นเรื่องให้มีศูนย์​การเรียนรู้​ชุมชน​มากขึ้น​ ส่วนครั้งนี้พื้นที่ภาคเหนือ​ขึ้นอยู่กับ​ว่าเราจะเสวนาขับเคลื่อนการศึกษาในเรื่องใด​ ทั้งนี้แผนการจัดการศึกษาในพื้นที่ต้องสอดประสานกับแผนของจังหวัด​ เพื่อนำไปสู่​การจัดระบบ​งบประมาณ​ด้วย

นอกจากนี้ สิ่งที่​ ปลัด​ ศธ.​ คาดหวังหลังจากลงพื้น​ที่​ครบ 4 ภาคแล้ว​ คืออยากเห็นชุดโครงการสำคัญตามบริบทของภาคที่สามารถ​ตอบนโยบาย​และจุดเน้นของ​ ศธ.​ ทั้ง 7 ด้าน​ ตัวอย่าง​เช่น​ เรื่อง​สถานศึกษา​ปลอดภัย​ในทุกระดับทุกประเภ​ท, การสร้างหลักสูตร​เชื่อมโยง​ตั้งแต่พื้นฐาน​สู่อาชีวศึกษา​ ส่งต่อการมีงานทำที่มั่นคงในพื้นที่, NEED​ (Non Education​ Employment Development)​ หากออกชุดโครงการสำคัญได้​ แล้วดึงอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ​ (อส.ศธ.)​ ที่มีประสบการณ์​มาทำงานร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, เรื่องของการศึกษาปฐมวัย​ จะต้องเน้นความร่วมมือ 4 กระทรวงหลัก​ ประกอบด้วยกระทรวง​ศึกษาธิการ​ กระทรวง​มหาดไทย​ กระทรวง​สาธารณ​สุข​ และกระทรวงแรงงาน​ ตามแผน​ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562​ เป็น​ต้น

นายสมภพ กล่าวด้วยว่า ในช่วง​บ่าย มีการ​แบ่งกลุ่ม​อภิปราย​ ออกแบบ​ (ร่าง) กลไกการบริหารและจัดการศึกษาจังหวัดที่ส่งผลไปถึงกระบวนการเรียนรู้​ และผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ของผู้เรียนที่สอดรับกับทักษะในศตวรรษที่ 21​ และทักษะอาชีพที่เป็นไปตามความต้องการของตลาดงาน ตามหลักความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล (Causal Relationship : XYZ) ที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด (พ.ศ. 2566 – 2570) แบ่งเป็นกลุ่มช่วงการตั้ง​ครรภ์​/ปฐมวัย​ วัยเรียน​และ​วัยรุ่น​ระดับ​ประถมศึกษา​ วัยเรียน​และวัยรุ่น​ระดับมัธยมศึกษา​ วัยเรียน​และ​วัยรุ่น​ระดับ​อาชีวศึกษา​ วัยเรียน​และวัยรุ่น​ระดับ​อุดมศึกษา​ วัยแรงงาน​ และวัยผู้สูงอายุ​

นายพีระพล พูลทวี ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว​ว่า​ สิ่งที่ส่วนกลางอยากจะเห็นก็คือ ต่อจากนี้ไปเรื่องการศึกษาใด​ ๆ​ ในจังหวัดจะต้องอยู่ในมือของศึกษาธิการ​จังหวัด​ ซึ่ง​รูปแบบการประชุม​วันนี้วิทยากรได้พยายามจะนำเสนอให้เห็นว่า ศธ.​ มีภารกิจ​จะต้องดูแลเด็กตั้งแต่ยังไม่เกิด​จนถึงวัยสูงอายุ​ จึงต้องระดมความคิดช่วยกันว่าจะเดินหน้าต่อไป​อย่าง​ไร​ การที่ส่วนกลางมาเก็บข้อมูลครั้งนี้​ เพื่อจะดูว่าความคิดเห็น​ที่ร่วมกันนำเสนอมา​ ยังขาดเหลือ​สิ่งใดที่ส่วนกลาง​จะสามารถ​สนับสนุน​ให้การขับเคลื่อน​งานเกิดเป็นรูปธรรม​ได้

โอกาส​นี้​ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบเกียรติ​บัตร​ให้สถานศึกษา​ที่ร่วมจัดนิทรรศการ​ใน​งาน​ ได้แก่​ โรงเรียน​อนุบาล​ลำปาง​ (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์)​ โรงเรียน​อัสสัมชัญ​ลำปาง​ โรงเรียน​มัธยม​วิทยา​ วิทยา​ลัยเทคนิคลำปาง​ สำนักงาน​ กศน.จังหวัด​ลำปาง​ สำนักงาน​ กศน.อ​ำ​เภอ​เมืองลำปาง​ และสำนักงาน​ กศน.อ​ำ​เภอ​ห้าง​ฉัตร

ปารัชญ์​ ไชยเวช / สรุป​
ณัฐ​พล​ สุกไทย / ถ่ายภาพ

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

Website Built with WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: