ศธ.ลงพื้นที่ช่วยเหลือเหตุพายุถล่มโรงเรียนที่พิจิตร ปลัด ศธ. ‘อรรถพล’ สั่งปูพรมตรวจสอบจุดเสี่ยงในสถานศึกษาทั่วประเทศ กำชับดูแลความปลอดภัยทุกด้าน

(23 พฤษภาคม 2566) นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยกรณีเกิดเหตุพายุฝนพัดอาคารโดมของโรงเรียนวัดเนินปอ สังกัด สพป.พิจิตร เขต 1 พังเสียหาย มีนักเรียนและบุคลากรบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น

ได้รับรายงานจากศูนย์ความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ (MOE Safety Center) ว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. ได้เกิดเหตุฝนฟ้าคะนอง พัดโดมภายในโรงเรียนวัดเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ล้มทับนักเรียนและผู้ปกครองที่มาเล่นกีฬา ขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 18 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.สามง่าม รพ.วชิรบารมี และ รพ.พิจิตร ทั้งนี้ สพป.พิจิตร เขต 1 ได้รายงานนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยตรงด้วยแล้ว

สำหรับการช่วยเหลือเบื้องต้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบหมายให้ นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มออกแบบและก่อสร้าง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเดินทาง โดยมีการมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ดังนี้ เสียชีวิต รายละ 10,000 บาท บาดเจ็บสาหัสรายละ 5,000 บาท และบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 3,000 บาท

กระทรวงศึกษาธิการ โดย นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. และคณะผู้บริหาร ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียและได้รับบาดเจ็บต่อทุกท่าน ในเบื้องต้นนั้น สพฐ.ได้ลงพื้นที่ไปเยียวยาแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาดูแลคือ ประกันอุบัติเหตุของโรงเรียน นอกจากนี้ สพฐ.มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของกรณีดังกล่าว

ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ได้สั่งการไปยัง ศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติ กระทรวงศึกษาธิการ ระดับจังหวัด ให้ลงพื้นที่ร่วมกับกลุ่มออกแบบและก่อสร้าง สพฐ. เพื่อไปตรวจสอบอาคารให้มีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากบางแห่งมีอายุการใช้งานมาก อีกประเด็นหนึ่งคือ สถานศึกษาบางแห่งอาจจะใช้โดมในลักษณะการเชื่อมต่อระหว่างอาคารขึ้นไป ซึ่งจะไม่แข็งแรงและกลายเป็นจุดเสี่ยง อาจจะต้องระงับการใช้งาน ศธ.จึงถือโอกาสนี้ตรวจสอบภาพรวมทั้งหมดของประเทศ

“ศธ.มีความห่วงใยและไม่อยากให้เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำ จึงสั่งการให้ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ทั่วประเทศ ดำเนินการประสานงานกับสถานศึกษาทุกสังกัด ทั้งรัฐและเอกชน ตรวจสอบอาคาร ประตู รั้ว สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เพื่อป้องกันเหตุที่อาจก่อให้เกิดอันตราย รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต เช่น เด็กติดในรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ความปลอดภัยในการเดินทาง ห้องน้ำนักเรียน เป็นต้น โดยได้กำชับทุกหน่วยงานตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มข้น ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ที่สถานศึกษาจะเตรียมความพร้อมเมื่อเปิดภาคเรียน และจะต้องมีการตรวจสอบอยู่เสมอ” ปลัด ศธ.กล่าว

ปารัชญ์ ไชยเวช/สรุป