ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม หลักสูตร 6 “น้าโย่ง-น้านงค์-น้าพวง” นำเสนอ Soft Power ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน รากฐานการศึกษา สุนทรียภาพทางปัญญา คุณค่ามรดกแผ่นดิน

19 เมษายน 2565 – กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดอบรม “ตลาดนัดการเรียนรู้ออนไลน์วังจันทรเกษม” เฟส 2 หลักสูตรที่ 6 จำอวดหน้าวัง (จันทรเกษม) “ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน รากฐานการศึกษา สุนทรียภาพทางปัญญา คุณค่ามรดกแผ่นดิน” โดยวิทยากร “สามน้า”  น้าโย่ง (นายพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา) น้านงค์ (นายจำนงค์ ปิยะโชติ) น้าพวง (นายพวง แก้วประเสริฐ) มี ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดหลักสูตรอบรม, ดร.วีระ แข็งกสิการ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนางสาวจงจิตร ฟองละแอ นักประชาสัมพันธ์ สป. เป็นผู้ดำเนินรายการ จัดอบรมที่ห้องส่งสถานีโทรทัศน์ ETV ถ.ศรีอยุธยา พร้อมถ่ายทอดสดผ่านระบบ Microsoft Teams และ Facebook Fanpage ศธ.360 องศา ยอดผู้สมัครเข้าอบรมหลักสูตรนี้ 9.7 หมื่นคน

รับชมลิงก์อบรมย้อนหลัง
หรือ https://youtu.be/0spBgRzh-ZY

การอบรมหลักสูตรที่ 6 จำอวดหน้าวัง (จันทรเกษม) “ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน รากฐานการศึกษา สุนทรียภาพทางปัญญา คุณค่ามรดกแผ่นดิน” เป็นการนำศิลปะการแสดงเพลงพื้นบ้าน มาสาธิตผสมผสานกับเนื้อหาที่ทันสมัย เช่น ลำตัด เพลงยาว เพลงฉ่อย เพลงอีแซว เพลงเกี่ยวข้าว เพลงเรือ เพลงแหล่ เพลงขอทาน ลิเก ตลกคาเฟ่ เป็นต้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ครูนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งน้าโย่ง (นายพิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา) ในฐานะตัวแทนวิทยากร กล่าวว่า สิ่งสำคัญของการศึกษาไทย คือ ครูต้องสอนสนุกให้เด็กเรียนรู้อย่างมีความสุข โดยสามารถหยิบยกกลอน เพลง หรือนิทานที่มีเนื้อหาร่วมสมัยมาสื่อสาร ทำให้เด็กเกิดการจดจำและนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง

ทั้งนี้ การสอนที่สนุกสนานจะทำให้ครูสนิทกับลูกศิษย์มากขึ้น สร้างความน่าสนใจให้เด็กอยากเรียนรู้ โดยกุญแจสำคัญในการไขความรู้ทั้งหลาย คือ คำถาม ที่เด็กสนใจใคร่รู้แล้วนำมาถามครูเพื่อหาคำตอบต่อไป และขอขอบคุณครูไทยทุกคนที่เสียสละด้วยจิตวิญญาณครู สั่งสอนให้ความรู้ ความถูกต้อง ความดีงามกับเด็กไทย ถือเป็นผู้ควรค่าแก่การยกย่อง ตลอดจนฝากถึงผู้เรียนทุกคนว่า ขอให้ขยัน รักการเรียน พยายามศึกษาหาความรู้ให้มาก แล้วจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. กล่าวขอบคุณคณะวิทยากรทั้งสามน้า ที่นำต้นทุนทางวัฒนธรรมพื้นบ้านของไทยมาถ่ายทอดให้ได้รับชม เชื่อว่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ครูและผู้เข้าอบรมได้นำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ปลัด ศธ. ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ 12-18 ปี โดยฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้วจำนวน 4.5 ล้านคน ขณะนี้ถึงเวลาต้องฉีดเข็มที่ 3 ซึ่งได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นำวัคซีนไฟเซอร์มาฉีดให้ที่โรงเรียน คาดว่าจะดำเนินการฉีดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ส่วนเด็กกลุ่มอายุ 5-11 ปี ยังเป็นการฉีดเข็มที่ 1 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นมา โดยมีวัคซีนนำเข้าประเทศไทยสัปดาห์ละ 300,000 โดส จะสามารถฉีดเข็มที่ 1 ได้ครบในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม และจะเริ่มฉีดเข็มที่ 2 ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป

ขณะเดียวกัน ศธ.มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการบรรจุครูรุ่นใหม่ที่เพิ่งสอบแข่งขันไป คาดว่าต้นเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ละจังหวัดจะเริ่มบรรจุครูตามโรงเรียนต่าง ๆ ให้ทัน และสอดคล้องกับการเตรียมการเปิดเทอมในวันที่ 16 พฤษภาคม 2565

โอกาสนี้ ในช่วงก่อนอบรมได้มีการเชิญผู้อบรมร่วมไว้อาลัยและสดุดี “ครูต่าย” กาญจนี ใจชื้น ครูอัตราจ้างของศูนย์การศึกษาพิเศษ หรือสอนเด็กที่มีภาวะความผิดปกติทางการเรียนรู้ (ออทิสติก) พร้อมร่วมบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่ลูกชายครูต่าย ผ่านบัญชี “กองทุนเพื่อช่วยเหลือครูกาญจณี ใจชื้น (ครูต่าย)” ธนาคารกรุงไทย สาขาโรบินสัน แม่สอด เลขที่บัญชี 661 4 74557 3

ปารัชญ์ ไชยเวช / สรุป
ธนภัทร จันทร์ห้างหว้า / ภาพ