ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ทั้งที หลายหน่วยงานมีของขวัญดีๆ มอบให้ประชาชน กระทรวงศึกษาธิการก็เช่นกัน นอกจากของขวัญปีใหม่ในรูปแบบ “มอบความรู้สู่ประชาชน” แล้ว ยังให้บริการประชาชนทั่วประเทศ ด้วยโครงการ “Fix It Center” ให้บริการพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยจิตอาสาอาชีวะทั่วไทย
รมว.ศธ. “ตรีนุช เทียนทอง” เผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เตรียม “ขบวนคาราวานอาชีวะช่วยประชาชน” เพื่อให้บริการดูแล บำรุงรักษา และซ่อมแชมยานพาหนะ สำหรับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ในพื้นที่ต่าง ๆ กว่า 78 จุดทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 – 4 มกราคม 2566 ซึ่งเป็นกิจกรรมจิตอาสาที่สำคัญของชาวอาชีวะ ช่วยเหลือประชาชนในช่วงเทศกาลต่างๆ เป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ ศธ.มอบผลการทำงาน ให้เป็นของขวัญปีใหม่ 2566 แก่ประชาชน โดยเฉพาะความรู้ สู่พี่น้องประชาชน เพื่อส่งมอบความสุขสู่ผู้เรียน ผู้ปกครอง ประชาชน รวมทั้งครู และบุคลากร
ของขวัญชิ้นแรก
ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายอุดหนุนรายหัว ตั้งแต่ระดับอนุบาล – ม.ปลาย และ ปวช. ในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ทั้งใน – นอกระบบ โดยปรับต่อเนื่อง 4 ปี ตั้งแต่ปี 2566-2569 ซึ่งจะครอบคลุมค่าจัดการเรียนการสอน เช่น สื่อ วัสดุการสอน ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ โดยปีสุดท้ายจะเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 20% อีกทั้งค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เช่น กิจกรรมวิชาการ ทัศนศึกษา ฯลฯ ปีสุดท้ายเพิ่มขึ้นจากปี 2565 อีก 30% รวมทั้งค่าอุปกรณ์การเรียน เพิ่มขึ้น 15% ตั้งแต่ปี 2566 และคงที่ในปีต่อ ๆ ไป สำหรับค่าเครื่องแบบนักเรียน เพิ่มให้ครบ 1 ชุด และเพิ่มเติมอีก 1 ชุด หากผู้ปกครองถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นับเป็นการปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนครั้งใหญ่ในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระรายจ่ายของผู้ปกครองนักเรียนกว่า 11.5 ล้านคน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ครอบครัว และเพิ่มศักยภาพของสถานศึกษาในการจัดและพัฒนาคุณภาพการศึกษาอีกด้วย




ของขวัญชิ้นที่สอง
โครงการโรงเรียนคุณภาพ มิติใหม่แห่งการเรียน ด้วยหลัก SQS คือ “S : Safety ปลอดภัย Q : Quality คุณภาพ S : Sharing แบ่งปันทรัพยากรการศึกษาร่วมกัน” ตามนโยบาย “สถานศึกษาปลอดภัย นักเรียนนักศึกษาไทยอบอุ่น” ซึ่งโรงเรียนคุณภาพ จะเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ใช้ทรัพยากรร่วมกัน มีครูครบชั้น ครบวิชา มีห้องเรียนปฏิบัติการที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย มีสื่อนวัตกรรม และเทคโนโลยีการศึกษาที่ทันสมัย เพื่อสร้างนักเรียนคุณภาพให้กับประเทศ สร้างครูคุณภาพให้กับห้องเรียน สร้างผู้บริหารคุณภาพให้กับโรงเรียน และสร้างโรงเรียนคุณภาพดีๆ ให้กับชุมชนทั่วประเทศ ขณะที่นักเรียนในโรงเรียนคุณภาพจะได้รับการพัฒนา 3 ทักษะ คือ ทักษะการเรียนรู้ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต

ของขวัญชิ้นที่สาม
Active Learning เพื่อให้เด็กไทยได้ “ฝึกคิด เรียนรู้ ลงมือทำจริง” เด็กทุกคนเลือกเรียนรู้ได้ตามความสนใจและความถนัด สามารถพึ่งพาตนเองได้ในการเรียนรู้ มีอิสระที่จะค้นคว้าหัวข้อที่อยากรู้ รูปแบบการเรียนรู้แบบใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กๆ รักษาผลการเรียนรู้ได้อยู่คงทน และเก็บเป็นระบบความจำในระยะยาว เพราะเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างครูและผู้เรียน โดยครูจะไม่ได้แค่สอนหนังสือ แต่เปลี่ยนบทบาทไปเป็นพี่เลี้ยง สร้างบรรยากาศของการมีส่วนร่วม จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ท้าทายด้วยวิธีหลากหลาย ที่สำคัญต้องกระตุ้นให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้

ของขวัญชิ้นที่สี่
MOE Safety Center “สถานศึกษาปลอดภัย” ปีที่ผ่านมามีนักเรียนกว่า 6,000 เคส ที่ได้รับการช่วยเหลือผ่านโครงการนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อสร้างความโปร่งใสในสถานศึกษา ให้ผู้เรียนและครูมีความปลอดภัยในรั้วโรงเรียนอย่างยั่งยืน โดยแนวคิดที่สร้างความปลอดภัยคือ 3 ป. คือ “ป้องกัน” 4 กลุ่มภัยใกล้ตัว, “ปลูกฝัง” ให้เด็กมีภูมิคุ้มกันและทักษะชีวิต, “ปราบปราม” หมดปัญหาเดิม ไม่เพิ่มปัญหาใหม่ ที่สำคัญประชาชนทุกคนสามารถแจ้งเหตุได้ 4 ช่องทาง คือ แอปพลิเคชัน MOE Safety Center เว็บไซต์ MOESafetyCenter.com ไลน์ @MOESafetyCenter และสายด่วน โทร 02-126-6565

ของขวัญชิ้นที่ห้า
ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวัน “จัดสรรมื้อคุณภาพส่งตรงจาก ศธ.” จะช่วยเพิ่มความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำ การเพิ่มมื้ออาหารคุณภาพให้เด็กไทยในครั้งนี้ ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 3,500 ล้านบาท เพื่อให้นักเรียนชั้นเด็กเล็ก – ป.6 ทุกสังกัด ได้ทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยปรับตามขนาดของโรงเรียน ดังนี้ นักเรียน 1 – 40 คน อัตรา 36 บาท/คน/วัน, นักเรียน 41 – 100 คน อัตรา 27 บาท/คน/วัน, นักเรียน 101 – 120 คน อัตรา 24 บาท/คน/วัน และนักเรียน 121 คน ขึ้นไป อัตรา 22 บาท/คน/วัน

ของขวัญชิ้นที่หก
“หลักสูตร EV ยานยนต์สมัยใหม่” พร้อมเปิดหลักสูตร EV ปั้นเด็กไทยเข้าอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเดินหน้า ตอบรับการเติบโตของอุตสาหกรรม EV กับรถที่ปลดปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle : ZEV) โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้พัฒนา ยกระดับหลักสูตรเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ปูพรมเปิดการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ ระดับ ปวช. และ ปวส. ในสถานศึกษาอาชีวะ 51 แห่งทั่วประเทศ เริ่มภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เพื่อเป็นการผลิตบุคลากรของไทยให้พร้อมก้าวเป็นศูนย์กลางการผลิตรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ภายใน 5 ปี

ของขวัญชิ้นสุดท้าย
การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งเมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคมที่ผ่านมา ศธ.จัดงาน “มหกรรมการเงินเพื่อครูไทย” “Unlock a Better Life” สร้างโอกาสใหม่ เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า งานนี้ช่วยให้ครูที่มีหนี้สินสามารถปลดหนี้ผ่านบริการไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้จาก 7 สถาบันการเงินชั้นนำ ที่มาให้คำปรึกษาด้านการเงินรายบุคคล ให้ความรู้ด้านการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยและภาคีเครือข่าย ซึ่งช่วยปลดล็อกอิสรภาพทางการเงินแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษากว่า 1.5 หมื่นราย มูลค่าหนี้รวมกว่า 6 พันล้านบาท ช่วยให้ครูมีสุขภาพทางการเงินที่ดี มีความสุขในชีวิตและการสอน

“ศธ.ขอเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความรู้ ส่งต่อความสุขให้กับคนไทย มุ่งยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษา ให้ผู้เรียนทุกช่วงวัย พร้อมพัฒนาทักษะอาชีพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ยกระดับศักยภาพครู เร่งสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคมต่อระบบการศึกษาไทย ไม่ทิ้งใคร.. ไว้ข้างหลัง”
เรียบเรียง / กลุ่มสารนิเทศ สป.ศธ.
ใส่ความเห็น