“ตรีนุช” ปักธงขยายผู้เรียนทวิภาคี 50% พร้อมร่วมมือภาคีเครือข่ายเอกชน ต่อยอดความร่วมมืออาชีวศึกษา

3 สิงหาคม 2565, โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ / นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.) เพื่อสนับสนุนการจัดการอาชีวศึกษา และขับเคลื่อนศูนย์บริหารเครือข่ายการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (Center of Vocational Manpower Networking Management : CVM) พร้อมด้วยนางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. โดยมีนายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการ กอศ. ตลอดจนผู้บริหารสถานประกอบการ ให้การต้อนรับและเข้าร่วม

รมว.ศธ. กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาเป็นอย่างมาก โดยกำหนดเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เพราะมุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ โดยการนำระบบและกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย รวมถึงพันธมิตรที่สำคัญ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ความรู้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีของสถานประกอบการในภาคเอกชนมาร่วมจัดการอาชีวศึกษาอย่างเข้มข้น เพื่อพัฒนาทักษะทางวิชาการ ทักษะทางวิชาชีพ และการฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพของครูและผู้เรียนอย่างมีคุณภาพ ยังผลให้ผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษาเป็นกำลังคนที่มีคุณภาพ มีความรู้ ทักษะขั้นสูง และได้รับประสบการณ์วิชาชีพ ตรงกับความต้องการของภาคเศรษฐกิจอย่างแท้จริง อีกทั้งยังสามารถพัฒนาต่อยอดในการสร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้นำเอายุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศเป็นแนวทางในการดำเนินการเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคน ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) และรองรับการเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม 4.0 โดยมีการแต่งตั้งคณะ อ.กรอ.อศ.ทั้ง 39 กลุ่ม ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ กลุ่มอาชีพภาคธุรกิจและบริการอาหาร กลุ่มอาชีพอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มอาชีพพลังงาน เพื่อให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการอาชีวศึกษาและขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ โดยมีศูนย์ CVM ทั้ง 25 แห่ง เป็นต้นแบบในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ให้สามารถผลิตกำลังคนที่มีสมรรถนะสูงและมีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน สอดคล้องกับบริบทเชิงพื้นที่ และมีจำนวนที่เพียงพอกับความต้องการของประเทศ ในอนาคตอันใกล้จะเร่งพัฒนาให้มีศูนย์ CMV ครอบคลุม 39 แห่ง ครบ 39 กลุ่มอาชีพที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ที่ผ่านมาได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษารัฐและเอกชนทุกแห่ง ขยายความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบทวิภาคี กับภาคเอกชนและเครือข่ายให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โควิด 19 และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล โดยตั้งเป้าหมายให้นักเรียนเข้าสู่ระบบทวิภาคีไม่น้อยกว่า 50% ภายในระยะเวลา 3 ปี จากเดิมที่มีนักเรียนในระบบฯ เพียง 15% จากจำนวนผู้เรียนอาชีวศึกษาทั้งหมด

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า หลายปีที่ผ่านมาภาคเอกชนให้การสนับสนุนอาชีวศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อภาคอุตสาหกรรมของไทย จึงอยากขอความร่วมมือภาคเอกชน ช่วยสนับสนุนอาชีวศึกษา ให้มีความเข็มแข็งมากยิ่งขึ้น โดย ศธ.ได้มารับฟังข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน เพื่อนำมาปรับปรุง พัฒนา และการต่อยอดความร่วมมือการจัดการอาชีวศึกษาให้ก้าวล้ำทันสมัย เพื่อให้มีบุคลาการมืออาชีพที่ตรงกับความต้องการ

“การหารือกับภาคเอกชนครั้งนี้ ศธ.จะนำปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน กับอาชีวศึกษา ไปแก้ไขเพื่อให้ตรงเป้าหมาย และปลดล็อกในประเด็นต่าง ๆ ผู้บริหารของสถานประกอบการ และผู้บริหารสถานศึกษาทุกท่านจึงมีความสำคัญอย่างมากในการที่จะช่วยกันทำให้การจัดการอาชีวศึกษาให้ประสบความสำเร็จ โดยการประสานความคิด ความร่วมมือ รวมพลังในการขับเคลื่อนการอาชีวศึกษา ร่วมกันสร้างกำลังคนที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาประเทศให้สามารถแข่งขันกับนานาอารยประเทศต่อไป”

อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว
อธิชนม์ สลางสิงห์ / วิดีโอ
ณัฐพล สุกไทย / ภาพ

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

Website Built with WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: