เสมา2 ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน

เสมา 2 “คุณหญิงกัลยา โสภณพนิชลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตรวจติดตามเชิงประจักษ์ความก้าวหน้าโครงการ “อัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน”ชื่นชม รร.ห้วยสักวิทยาคม ทำร่วมกับเครือข่าย แก้ไขปัญหาพื้นที่ได้ตรงจุด

ชมภาพเพิ่มเติม Facebook

26 พฤษภาคม 2565 จังหวัดเชียงราย / ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายโชติ โสภณพนิช ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะไทย, นายรณภพ ปัทมะดิษ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงพื้นที่ตรวจติดตามเชิงประจักษ์ความก้าวหน้าการดำเนินโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน Science Technology Innovation (STI) : Smart Intensive Farm ณ โรงเรียนห้วยสักวิทยาคม จังหวัดเชียงราย

ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช กล่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน โดยเน้นการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ STEAM Education ที่บูรณาการรายวิซาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ Coding กับการทำเกษตรแบบประณีตในโรงเรียน

โดยมีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะ สามารถนำองค์ความรู้มาสู่การปฏิบัติและต่อยอดในการประกอบอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ภายในโรงเรียน นำไปสู่การผลักดันให้เกิดการยกระดับกระบวนการผลิตและคุณภาพสินค้าภาคเกษตร ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

จากความสำเร็จของการทดลองวิจัยอย่างดียิ่ง กับโรงเรียนนำร่องจำนวน 2 โรงเรียน ในปีการศึกษา 2564 ทำให้ปีการศึกษา 2565 สพฐ. ได้ขยายผลโครงการไปสู่โรงเรียนในสังกัดเพิ่มอีก จำนวน 346 โรงเรียน ซึ่งแบ่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษา 237 โรงเรียน และโรงเรียนมัธยมศึกษา 109 โรงเรียน พร้อมทั้งได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการปฐมนิเทศโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือก เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมาในรูปแบบออนไลน์ ให้แก่ผู้บริหารและคณะครูผู้รับผิดชอบโครงการ เพื่อสร้างความเข้าใจในวัตถุประสงค์ แนวทางการดำเนินงานตามโครงการ และให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

นายมงคล สิงห์ปัน ผู้อำนวยโรงเรียนห้วยสักวิทยาคม กล่าวว่า โรงเรียนห้วยสักวิทยาคม สังกัด สพม.เชียงราย เป็นโรงเรียนนำร่องของโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน ที่มีความโดดเด่นในการดำเนินโครงการ โดยใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นฐานอีกทั้ง ยังมีความโดดเด่นเรื่องความร่วมมือทางวิชาการกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงราย ในการจัดกิจกรรมบริการวิชาการ ร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพนักเรียนและครู ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบของโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน ซึ่งส่งผลให้นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ ลงมือปฏิบัติกิจกรรม และประเมินผลโดยใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์

อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมต้นแบบการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ ในการพัฒนาการเรียนรู้ของโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงราย และโรงเรียนมัธยมศึกษาอื่น เพื่อเป็นต้นแบบในการสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการ และร่วมกันสร้างพลังในการส่งเสริมการใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพมากขึ้น ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดเชียงราย (เกษตรที่สูง) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดเชียงราย สำนักงานประมงจังหวัดเชียงราย แหล่งการเรียนรู้และปราชญ์ชาวบ้าน ระหว่างตำบลห้วยสักกับตำบลดอยลาน จังหวัดเชียงราย

นอกจากนี้ โรงเรียนห้วยสักวิทยาคม ยังได้บูรณาการกิจกรรมโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน ร่วมกับโครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามรอยพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงด้วย “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” ได้เป็นอย่างดียิ่ง จึงแสดงให้เห็นว่าการจัดกิจกรรมทั้ง 2 โครงการ ก่อให้เกิดการทำงานที่มีการบูรณาการ และหนุนเสริมความเข้มแข็งทางวิซาการ ส่งผลให้เกิดความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กล่าวว่า การขับเคลื่อนโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้นักเรียนได้ใช้ Coding และ STI มาบูรณาการให้สำเร็จผลทางการเกษตร ร่วมกับมหาวิทยาลัย โรงเรียน ปราชญ์ชาวบ้าน ชุมชน องค์กรต่าง ๆ จึงขอขอบคุณทุกความร่วมมือนี้ ซึ่งทำให้เกิดการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล คิดเชิงคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ กล้าตัดสินใจลงมือทำ ทำผิดทำใหม่ และอ่านเขียนอย่างมีวิจารณญาณ

โครงการนี้สามารถสร้างคุณูปการในการเรียนการสอนด้านสังคม ด้วยการดำเนิน 5 ขั้นตอน เพื่อเรียนรู้พื้นฐานของพื้นที่ ก่อนนำไปสู่การแก้ปัญหาผ่านการคิดวิเคราะห์แบบ Coding จนค้นพบวิธีต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา ถือเป็นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้จะใช้เวลา 5-6 เดือนก็ตาม แสดงให้เห็นว่าเมื่อใช้ Coding และ STI ในการแก้ปัญหาและมีแนวคิดต่อยอดสร้างสรรค์ ทำให้แก้ปัญหาถูกจุด ตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่

“แม้โครงการเกษตรปราณีตจะเป็นการส่งเสริมด้านการเกษตร แต่ที่จริงแล้วเป็นการสร้างเด็กไทยให้มีภูมิคุ้มกันในโลกดิจิทัล สามารถชนะในการแข่งขันต่าง ๆ ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีความภูมิใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาค่ามิได้ แต่อย่าลืมปลูกฝังความเป็นไทยให้นักเรียน ส่งเสริมให้ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม ความกตัญญู ความดีงามต่าง ๆ ตามแนวทาง STEAM Education”

ใส่ความเห็น

Website Built with WordPress.com.

Up ↑