รมว.ศธ. “ตรีนุช” ประชุมชี้แจงนโยบายการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนโรงเรียนเอกชน ชื่นชมโรงเรียนเอกชนมีบทบาทสำคัญในการยกระดับการศึกษาไทย กำชับให้ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายจุดเน้น ศธ. โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา การเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนในช่วงโควิด 19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เผยเตรียมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติ ศธ.เพื่อดูแลความปลอดภัยในสถานศึกษาครบวงจร
28 ตุลาคม 2565, ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ / นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็น ประธานการประชุมชี้แจงนโยบายและการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนของโรงเรียนเอกชน พร้อมด้วยนายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.), นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการ กช. โดยมีศึกษาธิการจังหวัด, ผอ.สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด, ประธาน ปส.กช., นายกสมาคมทางการศึกษาเอกชน ผู้บริหาร และครูโรงเรียนเอกชน เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting และ Facebook สช.

รมว.ศธ. กล่าวว่า โรงเรียนเอกชนมีบทบาทสำคัญในการจัดและการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนสามารถจัดการศึกษาตามแนวทางนโยบาย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการได้อย่างมีคุณภาพ ช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการจัดการศึกษาได้เป็นอย่างดี มีผลดำเนินการที่สำเร็จเป็นรูปธรรมแล้ว เช่น
- การปรับอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวสำหรับผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครอบคลุมนักเรียนโรงเรียนเอกชนในระดับก่อนประถม-ประถมศึกษา ม.ต้น และ ม.ปลาย กว่าสองล้านคน โดยจะเป็นการปรับเพิ่มแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปีงบประมาณ (พ.ศ. 2566 – 2569)
- โครงการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ปกครอง และนักเรียน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยเมื่อปีการศึกษา 2564 ที่ผ่านมา จ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ปกครองและนักเรียน ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน
- สร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย ในด้านการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคลติดตามเด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคัน
- การปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลสำหรับนักเรียนพิการ ในโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษา และโรงเรียนเอกชน ประเภทอาชีวศึกษา ระดับ ปวช. รวมทั้งสำรวจข้อมูลค่าใช้จ่ายจริงในการจัดการศึกษาเอกชนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประเภทสามัญศึกษา เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการวิเคราะห์ ทางเลือกและกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนต่อไป
สำหรับการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียน 2/2565 ฝากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษา ช่วยกำชับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน้นของ ศธ. ในเรื่องการศึกษาเพื่อความปลอดภัย โดย ศธ.ได้จัดตั้ง MOE Safety Center หรือศูนย์ความปลอดภัย ศธ. เพื่อจัดทำแผนและแนวทางการ บริหารจัดการระบบมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับสถานศึกษา ให้ ศธจ./สช.จังหวัด/โรงเรียนเอกชน ร่วมดำเนินการดังกล่าวตามแนวทางที่กำหนด ซึ่งขณะนี้มีนักเรียน ครู ผู้ปกครองร่วมแจ้งเหตุและเข้าใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าวเกินล้านคนเป็นที่เรียบร้อย รวมไปถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน โดยกำชับส่วนราชการและสถานศึกษาในการดูแลเด็กและเยาวชน ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืนโดยใช้กลไกตามนโยบายความปลอดภัยในสถานศึกษา จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ เน้นการดำเนินงานด้านการป้องกัน การปลูกฝัง และปราบปราม
ทั้งนี้ จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โควิด 19 เปลี่ยนผ่านจากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ในด้านนโยบายผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามคำแนะนำของ สธ.อย่างเคร่งครัด ส่วนด้านสถานศึกษาต้องจัดสภาพแวดล้อมให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการเรียนรู้ ขณะเดียวกันนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องสุขอนามัยที่เหมาะสม ตลอดจนเข้มงวดเรื่องการเฝ้าระวัง และรายงานผลเพื่อให้รู้สถานการณ์และวางแผนป้องกันแก้ไขได้ทันท่วงที
รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เตรียมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติ ศธ. เพื่อดูแลให้ความช่วยเหลือสถานศึกษา หน่วยงาน ครู นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ ล่าสุดเป็นปัญหาอุทกภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โรงเรียน รวมถึงประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และมีความพร้อมในการประสานงานช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สถานศึกษา หน่วยงาน และผู้ประสบภัยในภาพรวมของ ศธ.ได้อย่างทันท่วงที
ส่วนการยกระดับคุณภาพการศึกษา ศธ.พร้อมส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษานำหลักสูตรฐานสมรรถนะไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ การจัดการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) การพัฒนาทักษะดิจิทัลและ Coding และการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง และศีลธรรม เพื่อเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งของเด็กและเยาวชนไทย








อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว
ศุภณัฐ วัฒนมงคลลาภ / ภาพ
ใส่ความเห็น