16 ตุลาคม 2565, จังหวัดอุบลราชธานี / นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ติดตามและให้ความช่วยเหลือสถานศึกษาที่ประสบอุทกภัย ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) อุบลราชธานี เขต 3, โรงเรียนบ้านเดื่อสะพานโดม และเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร โดยมีพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม, นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ ที่ปรึกษา รมว.ศธ., นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัด ศธ. ร่วมลงพื้นที่
รมว.ศธ. กล่าวว่า พร้อมด้วยผู้บริหาร ศธ.ตั้งใจมาเยี่ยมให้กำลังใจครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาทุกคน ซึ่งปีนี้จังหวัดอุบลราชธานีประสบกับอุทกภัยอย่างหนักและรุนแรง มีสถานศึกษาในสังกัด ศธ.มากกว่า 92 แห่งได้รับความเสียหาย ทั้งอาคารเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่า หลังจากที่น้ำลดแล้ว จะต้องมีการซ่อมแซมโรงเรียน หรือวัสดุครุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหาย ขอให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถานศึกษาได้จัดงบประมาณไปดูแลโดยเร่งด่วน เพื่อให้มีความพร้อมสามารถเปิดโรงเรียนจัดการเรียนการสอนได้ทันการเปิดเทอมที่จะถึงนี้ หรือให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และให้ดูแลครูผู้อยู่ในด่านหน้าได้รับขวัญกำลังใจ และได้รับการดูแลอย่างเต็มที่
“ดิฉันพร้อมที่จะเป็นหลักในการช่วยเหลือสนับสนุนในทุก ๆ ด้าน เพื่อทำให้โรงเรียน ทำให้เด็ก ๆ ของเรากลับมาสู่การเปิดภาคเรียนได้อีกครั้ง ซึ่งในการช่วยเหลือนั้น หน่วยงานของ ศธ. ทุกหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่ จะทำงานเชื่อมโยง บูรณาการร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นอาชีวะช่วยประชาชน, กศน.จิตอาสา ซ่อม สร้าง ล้างใหม่ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นต้น และวันนี้ก็ได้รับการอนุเคราะห์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ได้มอบถุงยังชีพมาร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขอขอบคุณผู้บริหารทุกท่านและเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คน ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปเร็ว ๆ ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพร่างกายจิตใจให้เข้มแข็งปลอดภัย เพื่อที่เราจะได้เป็นหลักในการทำงานให้กับลูกหลาน เยาวชน และครูของเราต่อไป” รมว.ศธ. กล่าว
นอกจากนี้ ยังได้รับเมตตาจากพระปัญญาวชิรโมลี เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม ซึ่งเป็นพระนักพัฒนาได้จัดสรรพื้นที่ของวัด จัดเป็นโรงเรียนเอกชนขึ้น เพื่อดูแลเยาวชนของเราส่วนหนึ่งให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา มีการพัฒนานวัตกรรมในเรื่องการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เพื่อลดค่าไฟฟ้า ช่วยระดมความช่วยเหลือจากชุมชนทุกด้าน ทำให้พวกเราบรรเทาทุกข์จากอุทกภัยในครั้งนี้ด้วย.












ใส่ความเห็น