กระทรวงศึกษาธิการ – 6 ธันวาคม 2567 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายกมล รอดคล้าย ประธานกรรมาธิการการศึกษา การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการศึกษา โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. นายสุทิน แก้วพนา รองประธานกรรมาธิการฯ ตลอดจนผู้บริหารระดับสูง ศธ. คณะกรรมาธิการการศึกษาฯ วุฒิสภา เข้าร่วม ณ ห้องราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ

รมว.ศธ. เปิดเผยว่า มิติการทำงานของตนคือ “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทั้ง ศธ. และคณะกรรมาธิการการศึกษาฯ วุฒิสภา ได้มาพูดคุยหารืออย่างไม่เป็นทางการมากนัก เพราะการที่เราพูดกันในรัฐสภา ต่างคนต่างก็ต้องทำตามบทบาทหน้าที่ของตน แต่เข้าใจว่าทั้งสองหน่วยงานก็เห็นแก่ประโยชน์ทางการศึกษาของเด็กและเยาวชน สิ่งที่สำคัญในวันนี้ ถือเป็นความร่วมมือในการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศ ได้ร่วมกันพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่สำคัญในหลายประการ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาเยาวชนและส่งเสริมการศึกษาให้มีคุณภาพและยั่งยืน

ในการประชุมครั้งนี้ มีการหารือถึงการจ้างงานบุคลากรในระบบการศึกษา โดยเฉพาะกรณีการจ้างเหมาบริการ ซึ่งมีข้อเสนอให้ปรับเปลี่ยนวิธีการจ้างงานจากการจ้างเหมาบริการเป็นลูกจ้างชั่วคราว เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม เช่น เงินสมทบประกันสังคมและการปรับเพิ่มอัตราเงินเดือน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ โดย สพฐ. ได้ทำหนังสือไปยัง กรมบัญชีกลาง และสำนักงาน ก.พ. เพื่อขอให้มีการจัดสรรงบประมาณและตำแหน่งในการปรับเปลี่ยนสถานะของพนักงานจากการจ้างเหมาบริการเป็นลูกจ้างชั่วคราว จำนวนกว่า 7,000 คน

กรณีเด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษา Zero Dropout กระทรวงศึกษาธิการได้เร่งดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในการคืนเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษากลับเข้าสู่ระบบการศึกษา โดยใช้ 4 แนวทางหลักในการ “ป้องกัน แก้ไข ส่งต่อ และติดตามดูแล” ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาเด็กนอกระบบการศึกษาให้เหลือเพียง “0” หรือไม่มีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา

กระทรวงศึกษาธิการยังมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยมีการเตรียมการและอบรมครูในเรื่องการสร้างข้อสอบตามมาตรฐานสากลเพื่อใช้ในการสอบ PISA ซึ่งเป็นการวัดความสามารถของนักเรียนในด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยครูจะได้รับการฝึกอบรมในทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติใน 78 Classroom ทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุม 77 จังหวัดและ 1 เขตสำนักการบริหารพิเศษ พร้อมติดตามผลการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อประเมินความก้าวหน้าทางการศึกษาและเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ PISA 2025

สิ่งที่สำคัญ ศธ. มีแนวทางพัฒนาคุณธรรม สำนึกความเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม รวมถึงการส่งเสริมความรักและความจงรักภักดีต่อ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง “การสร้างทรัพยากรมนุษย์ของชาติ เป็นคนที่มีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นสถาบันสำคัญของชาติ” กับ อว. มท. และ รง. ซึ่ง ศธ. มองภาพรวม ได้แก่ เด็กและเยาวชน เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีจิตสำนึกรักชาติ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และยึดมั่นในสถาบันสำคัญของชาติ และการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความจงรักภักดีฯ และกิจกรรมเสริมหลักสูตร บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่งในกระบวนการสรรหาและพัฒนาศักยภาพ ต้องมีคุณสมบัติมีเจตคติที่ดีต่อสถาบันหลักของประเทศ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และองค์คณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาหรือคณะกรรมการต่างๆ คณะทำงาน หรือคณะผู้บริหารในด้านการศึกษา ศธ. จะทำการคัดเลือกบุคคลที่มีแนวคิดและเจตคติที่ดีต่อ สถาบันหลักของชาติ เช่น ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และการเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในระบบประชาธิปไตย การเลือกบุคคลที่มีค่านิยมในเชิงบวกในการจัดการศึกษา จะช่วยสร้างระบบการศึกษาที่เป็นไปตามเป้าหมายของการพัฒนาคุณธรรมและจิตสำนึกที่ดี ให้แก่เด็กและเยาวชน

    “ถือเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมาธิการการศึกษาฯ วุฒิสภา เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาการศึกษาของประเทศให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยเน้นย้ำให้ทุกฝ่าย “ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ” ผ่านการแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามนโยบายเรียนดี มีความสุข ในมิติของการจัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต มุ่งเน้นการเพิ่มเครือข่ายทางการศึกษา การเพิ่มการมีส่วนร่วมสร้างภาคีเครือข่าย และมิติที่สำคัญคือ “การลดภาระ” ทั้งการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษาและการลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง อีกหนึ่งสิ่งคือการสะท้อนถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งในการพัฒนาระบบการศึกษาเพื่ออนาคตของเยาวชนไทย โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาหลัก เช่น การจัดการด้านการศึกษา การคืนเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา การเตรียมพร้อมสู่การสอบ PISA 2025 และการพัฒนาคุณธรรมและความเป็นพลเมืองที่รับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในอนาคต”

    การประชุมครั้งนี้มีผู้บริหาร ศธ. เข้าร่วม อาทิ พลเอก อภิชาติ อุ่นอ่อน ประธานคณะทำงานฝ่ายอำนวยการคณะทำงาน รมว.ศธ., นายพนัส บุญวัฒนสุนทร รองประธานคณะทำงาน รมช.ศธ., นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ., ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ., นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ., นายธฤติ ประสานสอน รองเลขาธิการ สกศ., นายวิทวัต ปัญจมะวัต รองเลขาธิการ กอศ., นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดี สกร., นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการ กช. และนายวชิรพันธ์ นาคก้อน รองเลขาธิการ ก.ค.ศ.

    อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว
    ศศิวัฒน์ แป้นคุ้มญาติ / ภาพ