2 ธันวาคม 2566 / นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2566 กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 โดยตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านแก่งม่วง (ภูเรือ) จ.เลย โดยมีนางสาวภูมารินทร์ คงเพียรธรรม นายอำเภอภูเรือ นายประสิทธิ์ ศรีกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแก่งม่วง (ภูเรือ) ศึกษาธิการจังหวัดเลย ตลอดจนคณะครูและนักเรียนให้การต้อนรับ​ พร้อม​เยี่ยม​ชม​นิทรรศการโรงเรียนบ้านแก่งม่วง เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน เน้นทักษะอาชีพ นิทรรศการของสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเลย (สกร.) และนิทรรศการของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่นักเรียน

นายประสิทธิ์ ศรีกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแก่งม่วง​ รายงานผลการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านแก่งม่วง​ ว่า​โรงเรียนบ้านแก่งม่วง​ ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย​ จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงชั้น​ ป. 6 จำนวน 8 ห้องเรียน ในปีการศึกษา 2566 มีนักเรียนทั้งสิ้นจำนวน 83 คน​ ผู้ปกครอง​นักเรียน​ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางด้านการเกษตร คือ ทำไร่ ทำนา ปลูกยางพารา ขิง แก้วมังกร และผู้ปกครองส่วนหนึ่งได้ไปขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตามต่างจังหวัด​ ทำให้นักเรียนบางส่วนอาศัยอยู่กับตายาย เป็นปัญหาที่ทางโรงเรียนต้องคอยติดตามกวดขันเรื่องการเรียนการสอน ตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

โรงเรียนได้จัดการศึกษาตามแนวนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เช่น การน้อมนำพระบรมราโชบายลงสู่การปฏิบัติ โดยมีการบูรณาการประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน ชุมชน วัดในหมู่บ้าน ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐที่อยู่ในพื้นที่​ และยังได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับทางวิทยาลัยการอาชีพด่านซ้าย ในการให้ความรู้ที่นำไปสู่อาชีพทางเลือก และวิทยาลัยเทคนิคเลย ด้านความรู้พื้นฐานทางด้านเครื่องยนต์และไฟฟ้า​ ซึ่ง​โรงเรียนบ้านแก่งม่วงเป็นสถานที่ออกค่ายฝึกประสบการณ์ของนักศึกษาช่างไฟฟ้า

นอกจาก​นี้ สถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวง​ ยังส่งทีมบุคลากรมาเป็นพี่เลี้ยงแก่นักเรียนให้ความรู้ เรื่องการเลี้ยงผึ้ง การปลูกผักหวานป่า ยางนา จนเกิดการเรียนรู้เป็นโครงงานอาชีพ มีการต่อยอดแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายออกวางจำหน่าย รวบรวมเป็นผลงานเข้าร่วมการแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และได้เหรียญทองระดับชาติจากจังหวัดร้อยเอ็ด

ด้านการอ่านออกเขียนได้ โรงเรียนได้รับการจัดสรรงบจาก สพป.เลย เขต 3 จัดซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด งบส่วนหนึ่งจากโครงการโรงเรียนในพื้นที่สูง โครงการครูรักษ์ถิ่น นำลงสู่ผู้เรียนและห้องเรียน ทำให้ครูมีสื่อที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย มีห้องสมุดให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า จนทำให้นักเรียนมีผลการอ่านการเขียนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะนักเรียนชั้น ป.1-3

อย่างไร​ก็ตาม โรงเรียน​ยังมีปัญหาและความต้องการด้านการบริหารจัดการ ซึ่งเดิมโรงเรียนมีลูกจ้างประจำ คือ ตำแหน่งนักการภารโรง เมื่อเจ้าตัวลาออกไปประกอบอาชีพส่วนตัว ตำแหน่งถูกส่งคืนไปยัง สพฐ. โดยไม่ทราบว่าจะมีโอกาสได้กลับคืนมาเมื่อใด ทางโรงเรียนมีความลำบากในการให้บริการแก่นักเรียน ตำแหน่งลูกจ้าง จึงมีความสำคัญไม่ด้อยไปกว่ากัน ด้วยต้องอาศัยฝีมือทางช่างและแรงงานในการพัฒนาโรงเรียน

นายสุรศักดิ์​ พันธ์​เจริญ​ว​ร​กุล​ รมช.ศธ. กล่าว​ว่า​ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ​ ภายใต้การกำกับดูแลของ​ พลตำรวจเอก​ เพิ่มพูน​ ชิดชอบ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เน้นเรื่อง​ “เรียนดี​ มีความสุข” เป็นนโยบายหลัก โดยมุ่งสร้างความสุขให้นักเรียน​ ผู้ปกครอง​ ครู บุคลากรทางการศึกษาทุกหน่วยงานในสังกัด อีกทั้งชุมชนที่มีส่วนร่วม​กับการจัดการศึกษา​ ทุกคนจะต้องมีความสุขร่วมกัน​ เพราะเราเชื่อว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศ​

ขณะ​เดียวกัน​เรื่องการลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา​ ก็เป็​นนโยบาย​หลักที่​ ศธ.​ พยายามดำเนินการในทุกมิติอยู่​ เพราะเรารู้ว่าหากครูไม่มีความสุข​ ครูมีภาระ​ ครูยังต้องกังวลกับการดำรงชีวิต​ ครูคงไม่สามารถ​สอนได้เต็มประสิทธิภาพ​ ดังนั้น​ตามที่ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแก่งม่วงได้พูดถึงเรื่องความเดือดร้อนขาดแคลนเรื่องกำลังคน ซึ่งปัญหานี้​
ศธ. เข้าใจถึงความยากลำบาก​ คณะผู้บริหาร​ ศธ.​ ก็ได้มีการหารือว่าเราจะพยายามนำนักการภารโรงคืนกลับไปให้โรงเรียนให้ได้ โดยจำนวนโรงเรียน​ที่ขาดแคลน​นักการภารโรง​มีอยู่กว่า​ 14,000 แห่ง​

“สพฐ. จะนำเรื่องนี้เสนอขอความเห็น​ชอบจากคณะรัฐมนตรี ​เพื่ออนุมัติคืนอัตรานักการภารโรง​กว่า 14,000 ตำแหน่ง​ ให้กับโรงเรียนที่ขาด โดยเราจะทำให้ดีที่สุด​ และมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะต้องรับฟังเรื่องนี้และคืนอัตรานักการภารโรงให้กับโรงเรียนที่ขาดทั้งหมด​ อย่างน้อยเราจะได้ไปจ้างคนในชุมชนให้มาเป็นนักการภารโรง​ เผื่อใครอยากทำงานมีเงินเดือนให้​ และได้ดูแลโรงเรียนซึ่งอยู่ในชุมชนของตัวเอง รวมทั้งช่วยแบ่งเบาภาระของครูในการทำงาน​ ครูจะได้ไม่ต้องมาตัดหญ้า​ ตัดต้น​ไม้​ ทาสี หรือทำงานที่นอกเหนือจากการสอน​ ครูจะได้มีเวลาสอนมากขึ้น ประสิทธิภาพก็จะได้เกิดขึ้น​ และเป็นการลดภาระครูในการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือจากการสอน​ เพราะความสุขของครูก็คือการได้สอนนักเรียนนั่นเอง” รมช.ศธ.​ กล่าว

อานนท์ วิชานนท์ / กราฟิก