30 พฤศจิกายน 2566 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ครั้งที่ 11/2566 มี ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เป็นกรรมการและเลขานุการการประชุม โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาและมีมติในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้
1. ให้การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษา จำนวน 15 แห่ง รวมจำนวน 32 หลักสูตร และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดปริญญาโททางการศึกษา (วิชาชีพครู) จำนวน 1 แห่ง รวมจำนวน 1 หลักสูตร ที่คุรุสภาให้การรับรอง ของสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นไปตามมาตรฐานที่คุรุสภากำหนด ซึ่งผ่านการประเมินจากคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
1.1 ให้การรับรองปริญญาตรีทางการศึกษา (หลักสูตร 4 ปี) จำนวน 3 แห่งจำนวน 18 หลักสูตร ประกอบด้วยปริญญาครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษา (หลักสูตร 4 ปี) (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2566) จำนวน 9 วิชาเอก มหาวิทยาลัยนครพนม ปริญญาครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการแนะแนวและการปรึกษา (4 ปี) หลักสูตรปรับปรุง พุทธศักราช 2566 มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และปริญญาครุศาสตรบัณฑิต (4 ปี) หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566 จำนวน 8 สาขาวิชา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
1.2 ให้การรับรองประกาศนียบัตรบัณฑิตทางการศึกษา (วิชาชีพครู) จำนวน 3 แห่งจำนวน 3 หลักสูตร ประกอบด้วย ประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชาชีพครู (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566) มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2566) สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ และประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566) สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
1.3 ให้การรับรองปริญญาโททางการศึกษา (วิชาชีพครู) จำนวน 4 แห่ง จำนวน 4 หลักสูตร ประกอบด้วยปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2566 มหาวิทยาลัยฟาฎอนี ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2565) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2565 แผน ก แบบ ก 2 (กรณีต้องการใบประอบวิชาชีพครู) มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2565 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กรุงเทพมหานคร
1.4 ให้การรับรองปริญญาโททางการศึกษา (วิชาชีพบริหารการศึกษา) จำนวน 5 แห่ง จำนวน 5 หลักสูตร ประกอบด้วย ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2565) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566) มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566) สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น
1.5 ให้การรับรองปริญญาเอกทางการศึกษา (วิชาชีพบริหารการศึกษา) จำนวน 2 แห่ง จำนวน 2 หลักสูตร ประกอบด้วย ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2565) มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ และปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. ให้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดปริญญาโททางการศึกษา (วิชาชีพครู) จำนวน 1 แห่ง จำนวน 1 หลักสูตร โดยเปลี่ยนแปลงแผนการรับนักศึกษาปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษาและคอมพิวเตอร์ศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2564) มหาวิทยาลัยบูรพา
2. เห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2565 และเห็นชอบในหลักการ ร่างข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเสนอ และมอบสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาเสนอร่างข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. …. ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภาลงนาม ก่อนดำเนินการประกาศใช้บังคับต่อไป
3. เห็นชอบ ร่าง ประกาศคุรุสภา เรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษา ตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อการประกอบวิชาชีพครู พ.ศ. …. และมอบสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
4. เห็นชอบ ร่าง รายงานผลการประเมินองค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยผู้ประเมินอิสระจากภายนอก และมอบสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เสนอรายงานผลการประเมินองค์การมหาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภาลงนาม และจัดส่งรายงานผลการประเมินองค์การมหาชนฯ ไปยังสำนักงาน ก.พ.ร.ต่อไป
5. เห็นชอบ ร่าง ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ตามกรอบการประเมินองค์การมหาชนที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติเฉพาะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตัวชี้วัดกำหนด ดังนี้
5.1 องค์ประกอบที่ 1 การประเมินประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของการดำเนินงาน น้ำหนักร้อยละ 70 ตัวชี้วัด ดังนี้
1) ร้อยละของหลักสูตรของสถาบันอุดมศึกษาที่คุรุสภาให้การรับรองเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา
2) ร้อยละของเรื่องร้องเรียนที่มีการสืบสวนและสอบสวนการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพตามแผน
3) ร้อยละของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ได้รับการส่งเสริมหรือพัฒนาตามมาตรฐาน และจรรยาบรรณของวิชาชีพ
4) ร้อยละของจำนวนการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ภายในเวลาที่กำหนด
5) จำนวนผู้ใช้บริการผ่านระบบบริการออนไลน์ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
6) ความสามารถด้านการหารายได้ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
7) ร้อยละค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
5.2 องค์ประกอบที่ 2 การประเมินศักยภาพการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย น้ำหนักร้อยละ 30 ตัวชี้วัด
1) ตัวชี้วัดการพัฒนาองค์การสู่ดิจิทัล
2) ตัวชี้วัดการประเมินสถานะของหน่วยงานภาครัฐในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0)
3) ตัวชี้วัดการควบคุมดูแลกิจการของคณะกรรมการ
6. รับทราบผลการจัดประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจำปี ๒๕๖๖ (KSP Webinar 2023) ภายใต้หัวข้อเรื่อง “The Professional Education Hub: Smart Educators” มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกช่องทางจำนวนทั้งสิ้น 112,391 คน/ครั้ง และได้รับเกียรติบัตรออนไลน์ จำนวนทั้งสิ้น 90,668 คน
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โดยคณะกรรมการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาวิชาชีพ กำหนดจัดการประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจำปี 2566 (KSP Webinar 2023) ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 ถึง 10 กันยายน 2566 ขึ้นภายใต้หัวข้อ “The Professional Education Hub: Smart Educators” ครอบคลุมประเด็นสำคัญ 3 ประเด็น ดังนี้
1. Smart Teacher คือ ครูมีทักษะและเทคนิคในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างชาญฉลาด (Smart Learning) หรือการเรียนรู้แบบปรับเปลี่ยน (Adaptive Learning) ทำให้เป็นห้องเรียนที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแบบปรับเปลี่ยนตามผู้เรียน สร้างแรงกระตุ้นให้ผู้เรียนเรียนรู้แบบ Interactive เกิดการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดของแต่ละบุคคล
2. Smart Classroom คือ ห้องเรียนที่พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้เกิดทักษะการเรียนรู้ (Learning Skill) และทักษะการเรียนรู้จากการสืบค้น (Research Skill) ได้ด้วยตนเอง เพื่อตอบสนองการเรียนรู้เป็นรายบุคคล สร้างประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ให้แก่ผู้เรียนอย่างเท่าเทียม รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการเรียน (Collaborative Learning) ของผู้เรียน และผู้สอนได้อย่างเต็มศักยภาพ
3. Smart Principal & Supervisor คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษาที่มีภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ปรับสู่การเป็น Smart Education ของสถานศึกษา ส่งเสริม สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยระบบการบริหารจัดการภายใน บริหารจัดการสภาพแวดล้อมการเรียนรู้อัจฉริยะ และห้องเรียนคุณภาพในสถานศึกษาที่มีความเข้มแข็งทางวิชาการ มีคุณภาพและสมรรถนะสูง ส่งเสริมการเรียนรู้ของทีมงานเพื่อขับเคลื่อนสู่สถานศึกษาคุณภาพ
การประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจำปี 2566 (KSP Webinar 2023) ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายการพัฒนาวิชาชีพทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ จำนวน 10 หน่วยงาน โดยให้การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านวิชาการ ด้านวิทยากร และด้านงบประมาณ ประกอบด้วย 1) มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี 2) มูลนิธิเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี 3) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา 4) มหาวิทยาลัยบูรพา 5) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 6) มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ 7) ศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยสะเต็มศึกษาของซีมีโอ 8) บริษัท เชฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิต 9) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ 10) สำนักงาน Didacta Asia
การประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจำปี 2566 (KSP Webinar 2023) แบ่งการจัดกิจกรรมภายในงานออกเป็น 2 เฟส ดังนี้
1) เฟสแรก (Pre Webinar) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม – 7 กันยายน 2566 เป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้องค์ความรู้เพื่อพัฒนาความลุ่มลึกทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา จำนวน 10 หัวข้อ โดยจัดเผยแพร่ในรูปแบบออนไลน์ทุกวันจันทร์ และวันพฤหัสบดี ระหว่างเวลา 18.00 – 20.30 น.
2) เฟสสอง (KSP Webinar) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 10 กันยายน 2566 เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเพิ่มพูนกระบวนทัศน์เพื่อการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ ประกอบด้วย พิธีเปิดการประชุม การปาฐกถาพิเศษ การบรรยาย การเสวนา ที่สอดคล้องกับ Theme โดยวิทยากรทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 15 หัวข้อ
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 2 เฟส สามารถรับเกียรติบัตรออนไลน์และใช้เป็นหนึ่งในกิจกรรมพัฒนาวิชาชีพ เพื่อการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาตามที่คุรุสภากำหนดได้ และเพื่อให้เกิดโอกาสสำหรับการเข้าถึงการพัฒนาตนเองของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ตรงตามบริบทและสอดคล้องกับความสนใจ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 2 เฟส ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2566 และสามารถรับชมย้อนหลังได้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 ผ่านเว็บไซต์ www.ksp-onebinar.one.th
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้จัดทำบทสรุปของการประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจำปี 2566 (KSP Webinar 2023) เฟสสอง มีรายละเอียดดังนี้
1) ประเด็นท้าทายในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางวิชาชีพ สำหรับ Smart Teacher, Smart Classroom และ Smart Principal and Supervisor จากการประชุมวิชาการของคุรุสภา ประจำปี 2566 ถอดข้อสรุปองค์ความรู้ทั้ง 15 หัวข้อ ดังแผนภาพต่อไปนี้

2) ประเด็นของการก้าวต่อไปของวิชาชีพทางการศึกษาจากบทบาทของ Smart Educator จากการประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจำปี 2566 ถอดข้อสรุปองค์ความรู้ทั้ง 15 หัวข้อ ได้แก่ 4 หมุดหมายที่ท้าทายต่อการพัฒนาวิชาชีพ ประกอบด้วย

7. รับทราบผลการคัดเลือกผู้รับรางวัลของคุรุสภา ประจำปี 2566 จำนวน 5 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลครูภาษาไทยดีเด่นเพื่อรับเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ รางวัลครูภาษาฝรั่งเศสดีเด่นเพื่อรับเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ กว รางวัลคุรุสภา รางวัลครูผู้สอนดีเด่น และรางวัลคุรุสดุดี
คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ในการประชุมครั้งที่ 8/2566 เมื่อวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2566 และในการประชุมครั้งที่ 10/2566 เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566 มีมติอนุมัติผู้สมควรได้รับรางวัลของคุรุสภา ประจำปี 2566 จำนวน 5 รางวัล ตามที่คณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 5 คณะ ดำเนินการคัดเลือกฯ ดังนี้
1. ครูภาษาไทยดีเด่น เพื่อรับเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ สธ ประจำปี 2566 จำนวน 3 คน
2. ครูภาษาฝรั่งเศสดีเด่น เพื่อรับเข็มเชิดชูเกียรติจารึกพระนามาภิไธยย่อ กว ประจำปี 2566 จำนวน 2 คน
3. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเพื่อรับรางวัลคุรุสภา ประจำปี 2566 “ระดับดีเด่น” จำนวน 9 คน
และ “ระดับดี” จำนวน 18 คน รวมจำนวน 27 คน
4. ครูผู้สอนดีเด่น ประจำปี 2566 “ระดับดีเด่น” จำนวน 13 คน และ “ระดับดี” จำนวน 14 คน
รวมจำนวน 27 คน
5. ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เพื่อรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี” ประจำปี 2566 จำนวน 956 คน
8. รับทราบการประกาศเกียรติคุณยกย่องครูผู้เสียสละ และมีอุดมการณ์ในวิชาชีพ เพื่อรับรางวัลครูถิรคุณ กรณี นายธวัชชัย ด้วงธรรม ครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด จังหวัดชัยภูมิ
จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 08.30 น. ที่ผ่านมาเกิดเหตุชายคุ้มคลั่ง ใช้อาวุธมีด บุกเข้าไปยังโรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด ตำบลทุ่งนาเลา อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ และใช้มีดที่นำติดตัวมาไล่ฟันครูและเด็กนักเรียน ขณะกำลังเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธง นายธวัชชัย ด้วงธรรม ครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด ได้ปกป้องนักเรียน ต่อสู้กับชายคุ้มคลั่งที่บุกเข้ามาบริเวณโรงเรียนจนตัวเองได้รับบาดเจ็บที่มือและแขน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้รัฐบาลได้แสดงความชื่นชมในความกล้าหาญและเสียสละของนายธวัชชัย ด้วงธรรม
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ในฐานะสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 9 (6) ส่งเสริม สนับสนุน ยกย่อง และผดุงเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ประกอบกับประกาศคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการประกาศเกียรติคุณยกย่องครูผู้เสียสละ และมีอุดมการณ์ในวิชาชีพ เพื่อรับรางวัลครูถิรคุณ โดยเป็นผู้มีคุณสมบัติ “เป็นบุคคลที่ปฏิบัติตนและปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความทุ่มเท เสียสละ มีอุดมการณ์ และจิตวิญญาณในวิชาชีพ ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดในสังคม”
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้เสนอคณะกรรมการคุรุสภา พิจารณาเห็นชอบให้ นายธวัชชัย ด้วงธรรม เป็นผู้สมควรได้รับการประกาศเกียรติคุณยกย่องเป็นครูผู้เสียสละ และมีอุดมการณ์ในวิชาชีพ เพื่อรับรางวัลครูถิรคุณ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Google Form) เนื่องจากเป็นกรณีเร่งด่วน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภา ได้มอบรางวัลครูถิรคุณ ให้แก่ นายธวัชชัยฯ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.00 น. ณ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ












