ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 โดยนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม ซึ่งได้พิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ ดังนี้
เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
สรุปมีวิธีการย้ายได้ 3 กรณี คือ การย้ายกรณีปกติ การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ และการย้ายกรณีพิเศษ
นอกจากนี้ ได้เห็นชอบให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทุกส่วนราชการ สำหรับย้ายประจำปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ เพื่อให้การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เกิดความสอดคล้อง เหมาะสมกับในแต่ละบริบท เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นผลดีแก่ราชการ และเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ
เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) สังกัดสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดและอำเภอ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา) กรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ
การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ ก.ค.ศ. เห็นว่าสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดและอำเภอ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหน่วยงานการศึกษาที่อยู่พื้นที่ที่มีลักษณะแตกต่างจากพื้นที่อื่นและมีอัตลักษณ์เฉพาะ มีความแตกต่างจากพื้นที่ปกติทั่วไป เพื่อความเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ จึงมีความจำเป็นจะต้องสรรหาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ทักษะ สมรรถนะเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างและระบบการบริหารงานภายใน มาปฏิบัติงานในสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดและอำเภอในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลต่อไป
เห็นชอบให้กำหนดระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งด้านพัสดุ พ.ศ. … เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการพิจารณาในการได้รับเงินเพิ่ม สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค(2) ตำแหน่งเจ้าพนักงานด้านพัสดุ และตำแหน่งนักวิชาการพัสดุ
เนื่องจาก ก.ค.ศ. พิจารณาเห็นว่าได้กำหนดตำแหน่งและมาตรฐานตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค(2) ตำแหน่งประเภททั่วไป ได้แก่ ตำแหน่งเจ้าพนักงานพัสดุ และตำแหน่งประเภทวิชาการ ได้แก่ ตำแหน่งนักวิชาการพัสดุ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานตำแหน่งที่กำหนดให้มีหน้าที่ปฏิบัติเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือน ซึ่งมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และในมาตรา 45 วรรค (2) ของกฎหมายฉบับเดียวกันกำหนดให้ข้าราชการที่ไม่เป็นข้าราชการพลเรือนมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ประกอบกับมาตรา 33 ตาม พ.ร.บ. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อาจได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตามระเบียบที่ ก.ค.ศ. กำหนด
ก.ค.ศ. จึงพิจารณาเห็นว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับข้าราชการพลเรือนและข้าราชการประเภทอื่น จึงเห็นควรให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค(2) ตำแหน่งเจ้าพนักงานด้านพัสดุ และตำแหน่งนักวิชาการพัสดุ ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษด้วย ทั้งนี้ จะได้นำเสนอให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
อนุมัติการย้ายและแต่งตั้ง
ผู้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 ราย
อนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ผู้ได้รับคัดเลือกและผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 293 ราย แบ่งเป็น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 241 ราย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 52 ราย
และอนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) จำนวน 11 ราย โดยแบ่งเป็น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 6 ราย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน 5 ราย
ทั้งนี้ ในการบรรจุและแต่งตั้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด

ข่าว : นายศรายุทธ มาทัพ
หัวหน้ากลุ่มประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ ก.ค.ศ.
ใส่ความเห็น