(3 กุมภาพันธ์ 2563) กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) แถลงข่าว “วันการศึกษาเอกชน ประจำปี 2563” ภายใต้แนวคิด “การศึกษาเอกชน ทางเลือกสู่อนาคต : PRIVATE EDUCATION, CHOICE OF THE FUTURE” โดยมี ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วย ดร.อรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน, ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชนและประธาน ปส.กช. จังหวัดนครราชสีมา ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ชั้น 3 อาคารรัชมังคลาภิเษก กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยมีผู้บริหารองค์กรหลัก ข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนนายกสมาคมเอกชนทั่วประเทศ และผู้แทนโรงเรียนเอกชน เข้าร่วมงาน

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2461 และนับตั้งแต่นั้นมาก็ได้ถือเอาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันที่มีความสำคัญยิ่งของโรงเรียนเอกชน โดยเรียกวันนี้ว่า “วันการศึกษาเอกชน” ดังนั้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงวันสำคัญดังกล่าว สช. จึงได้ถือเอาวันนี้กำหนดให้มีการจัดงานวันการศึกษาเอกชนขึ้นทุกปี
สำหรับปีนี้ได้กำหนดจัดงานขึ้นภายใต้แนวคิด “การศึกษาเอกชน ทางเลือกสู่อนาคต PRIVATE EDUCATION, CHOICE OF THE FUTURE” โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้ผู้บริหาร ครูโรงเรียนเอกชน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการและนวัตกรรมทางการศึกษา ให้นักเรียนได้มีโอกาสแสดงความสามารถ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน และพัฒนาทักษะ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น ซึ่งจัดงานขึ้นใน 5 ภูมิภาค ระหว่างวันที่ 7 – 16 ก.พ. 63 ดังนี้
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7-8 ก.พ. 63 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จ.อุดรธานี
- ภาคเหนือ 8-9 ก.พ. 63 ณ โรงเรียนเซนต์โยเซฟศรีเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์
- ภาคใต้ 8-9 ก.พ. 63 ณ ที่ทำการ อบจ.จังหวัดกระบี่ จ.กระบี่
- ภาคกลาง 15-16 ก.พ. 63 ณ โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ และโรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล จ.สมุทรปราการ
- ภาคตะวันออก 15-16 ก.พ. 63 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา
ในปีนี้มีความพิเศษ คือ เป็นการรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ของพี่น้องสมาคม ปส.กช. ทั้ง 20 สมาคม ร่วมมือร่วมใจกันทั้งประเทศ และกระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ โดยแสดงศักยภาพให้สังคมรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการเรียนการสอน ครูผู้สอน นักเรียน และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นำเสนอการเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนที่น่าสนใจ มีการจัดการแข่งขันในหลายรูปแบบ ทั้งในส่วนของเด็ก ๆ หรือเยาวชนที่อยู่ในระดับแนวหน้า และอีกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเด็กดาวรุ่ง ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ความสำคัญกับทุกคนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
นอกจากนี้ ยังเป็นรวมตัวกันของทั้งโรงเรียนเอกชนในระบบ นอกระบบ และสถาบันที่เกี่ยวกับการสอนอาชีพ มาโชว์ผลงานด้านต่าง ๆ เช่น การผสมเครื่องดื่ม แฟขั่นโชว์ของโรงเรียนตัดเย็บเสื้อผ้า ผลงานการแต่งหน้าของโรงเรียนสอนเสริมสวย เป็นต้น
คาดว่าจะมีคนร่วมงานทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 40,000 คน และจะมีเม็ดเงินสะพัดเป็นจำนวนมาก เช่น การจัดงานที่จังหวัดอุดรธานีซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ คาดว่าจะมีเงินกระจายสู่จังหวัดประมาณ 20 ล้านบาท หวังว่าสังคมจะได้เห็นถึงการพัฒนาโรงเรียนเอกชนให้มีความพร้อมสำหรับเป็นทางเลือกสู่อนาคตอีกรูปแบบหนึ่ง มีความทันสมัยทัดเทียมนานาชาติ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ปกครอง และคนที่ต้องการเพิ่มเติมความรู้ในสาขาอาชีพต่าง ๆ ดังนั้นอย่ามองว่าเอกชนจัดการศึกษาเพื่อธุรกิจ แต่โรงเรียนเอกชนทั้งหมดจัดการศึกษาเพื่อการศึกษา ซึ่งทำหน้าที่ในการช่วยแบ่งเบาภาระด้านการจัดการศึกษาของรัฐบาลด้วย

นายอรรถพล ตรึกตรอง กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้ แต่ละภาคได้จัดกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามบริบทของพื้นที่ และนำเสนอให้เห็นถึงวิวัฒนาการการจัดการศึกษาของเอกชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และการจัดการศึกษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ภายในงานมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจ ทั้งเชิงวิชาการและนิทรรศการ ได้แก่ การจัดเวทีเสวนาทางการศึกษา การบรรยายทางวิชาการ เช่น ภาคเหนือ จัดการบรรยายของ สสวท. เรื่อง แนวการจัดการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ที่เน้นกระบวนการคิด แก้ปัญหา และพัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตามแนวทาง สสวท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บรรยายเรื่อง จัดการเลี้ยงลูกอย่างไรในสภาวะปัจจุบันให้เป็นคนที่ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ การประกวดนวัตกรรมของผู้บริหารและครูในเรื่องของงานวิจัย การแข่งขันทักษะกลุ่มเด็กดาวรุ่ง การจัดนิทรรศการมากกว่า 40 รายการ โดยเน้นนิทรรศการแบบมีชีวิต เช่น การนวดเพื่อสุขภาพ การทำอาหาร การนำเสนอความสามารถบนเวทีของนักเรียนโรงเรียนเอกชนทั้งในและนอกระบบ

ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล กล่าวเพิ่มเติมถึงการยกย่องเชิดชูเกียรติบุคลากรการศึกษาเอกชนว่า สมาคม ปส.กช.ร่วมกับ สช. จะจัดพิธีมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติครูและบุคลากรการศึกษาเอกชน 3 ประเภท ได้แก่
- รางวัล “เข็มสดุดีทองคำ” มอบให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อการศึกษาเอกชนได้ทำการคัดเลือกจากทั่วประเทศ จำนวน 44 คน ซี่งรางวัลจะเป็นเข็มทองคำแท้หนัก 50 สตางค์ โดยสมาคมฯ ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
- การคัดเลือกผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชน เพื่อรับรางวัล “สดุดีครูเอกชน” คัดเลือกจากทั่วประเทศ จำนวน 81 คน โดยมีคุณสมบัติขคือต้องทำงานในสถานศึกษาเอกชนมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี และมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์อีกหลายส่วน
- รางวัลผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชนดีเด่น คัดเลือกจากครูโรงเรียนเอกชนทั้งในระบบและนอก รวมถึงบุคลากรอื่นกว่า 150,000 คน มีผู้ได้รับรางวัลประมาณ 10,000 คน







ปารัชญ์ ไชยเวช/ สรุป
กิตติกร แซ่หมู่/ ถ่ายภาพ
ใส่ความเห็น