นายกรัฐมนตรี “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” พูดและฝากอะไร? ในวันครู ปี 2563

(16 มกราคม 2563) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จัดงานวันครู ครั้งที่ 64 พ.ศ.2563 “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย” โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีและให้ข้อคิดแก่ครูทั่วประเทศ

ย้ำครูถือเป็นอาชีพสำคัญ ต้องเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้เด็ก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวระลึกถึงและผูกพันกับครูตั้งแต่เกิด จวบจนถึงปัจจุบัน เพราะคุณแม่และภรรยาก็เป็นครู อีกทั้งตลอดชีวิตที่รับราชการในกองทัพกว่า 40 ปี ก็เป็นครูสอนนักเรียนนายสิบทหารบก สอนทั้งวิชาการ วิชาการรบ และการดำรงชีวิต เพราะฉะนั้นครูถือเป็นอาชีพที่สำคัญ

ซึ่งนอกจากหน้าที่หลักที่จะสอนให้เด็กจบการศึกษาแล้ว ครูยังต้องปลูกฝังวัฒนธรรมอันดีงาม อบรมคุณธรรมจริยธรรม สิ่งไหนควรกระทำ สิ่งไหนไม่ควรกระทำ รวมไปถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีในทุก ๆ ด้าน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กปฏิบัติตาม เพื่อที่เติบโตขึ้นจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป

“ครู” พ่อแม่คนที่ 2 ของเด็ก ที่จะช่วยแต่งแต้ม “ผ้าขาว”

ครูเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สอง เด็กทุกคนเปรียบเสมือนผ้าขาว ที่ครูมีส่วนสำคัญจะแต่งแต้มให้ผ้าขาวนั้นมีศักยภาพ ทั้งในด้านวิชาการ คุณธรรมจริยธรรม รู้หน้าที่การเป็นพลเมืองที่ดี รู้จักคิดวิเคราะห์เป็นกระบวนการ เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ให้ศิษย์สามารถนำความรู้ความสามารถไปใช้ประกอบอาชีพ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ในสังคม

ฝากเรื่องการปลูกฝัง “กระบวนการคิดและความเข้าใจ” ให้เด็ก

ครูจึงถือเป็นอาชีพที่มีเกียรติอย่างสูงสุดในนานาอารยประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะมาจาก “ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ” ซึ่งทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพก็มาจาก “การจัดระบบการศึกษาและครูผู้สอนที่มีคุณภาพ” โดยขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงประเทศ เพื่อเดินหน้าไปสู่การพัฒนา

สิ่งสำคัญต้องมี “กระบวนการคิดและความเข้าใจ” ถ้าไม่มีสองสิ่งนี้จะทำอะไรจะพัฒนาอะไรก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ขอฝากเรื่องนี้ให้กระทรวงศึกษาธิการด้วยว่า การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องทำงานร่วมกัน

ครูต้องสอนให้เด็กเข้าใจ ไม่ใช่แค่ท่องจำ ยกตัวอย่างการสอนเรื่องศีล 5 เข้าใจว่าเด็กทุกคนจำได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่การนำไปปฏิบัติอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่ครูต้องแนะนำ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ต้องให้เด็กไทยมีความรู้ควบคู่ไปกับศีลธรรมอันดี มีหลักคิด มีทัศนคติที่ดี และรักประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการศึกษาอย่างเต็มที่

ครูต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างเด็กให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก

สิ่งสำคัญสำหรับเด็ก คือ การรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ครูจึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา ปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี ชี้แนะ นำแนวทางการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมให้กับผู้เรียนอย่างเข้าใจ และพร้อมที่จะทุ่มเทวิชาความรู้ด้วยวิธีการสมัยใหม่ ตามธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง คุณภาพของครูจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพสูงสุดในทุกมิติ ควบคู่ไปกับการมีมาตรฐานและจรรยาบรรณของวิชาชีพ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ศิษย์ให้มีคุณภาพ

ดึงศักยภาพเด็กออกมาให้มากที่สุด พร้อมกระตุ้นให้ฝึกฝนตนเอง

ครูต้องดึงศักยภาพเด็กให้ออกมาให้มากที่สุด สังเกตว่าเด็กสนใจด้านใดเป็นพิเศษ เพราะความสนใจความอยากรู้อยากเห็นในวัยเด็ก จะพัฒนามาเป็นความชอบ เมื่อประกอบกับความใฝ่รู้ จะนำไปสู่การฝึกฝนจนเกิดเป็นความชำนาญ และถ้าได้รับการสนับสนุนที่ดีจากครู รวมทั้งผู้ปกครอง สถานศึกษา และภาครัฐ ภาคเอกชน ก็จะสามารถนำความรู้ความสามารถต่าง ๆ ที่มี ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติได้ในอนาคต

ฝากครูบรรจุใหม่ อย่ารีบสร้างหนี้

นายกรัฐมนตรียังได้ฝากข้อคิดเรื่องการเป็นหนี้ ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างเร่งด่วน เพราะถือว่าเป็นขวัญและกำลังใจที่สำคัญ ขอฝากไปยังครูจบใหม่ อย่าเพิ่งสร้างหนี้สิน รู้จักประเมินค่าใช้จ่ายของตนเองด้วย รวมถึงต้องการให้ครูมีวุฒิการศึกษาตรงกับสาขาวิชาที่สอน ต้องประเมินตนเองว่าจบสาขาวิชานั้นมาแล้ว สามารถถ่ายทอดได้ดีหรือไม่อย่างไร

แนะให้ครูสอนเชิงลึกมากขึ้น ให้เด็กทันสมัยควบคู่ไปกับการมีคุณธรรม

ปัจจุบันรัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ปัญหาการผลิตครู ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพราะเห็นว่าเด็กไทยยังไม่รู้จักวิทยาศาสตร์ดีพอ ส่วนการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ต้องการให้ครูสอนในเชิงลึกมากขึ้น ให้เด็กรู้ความเป็นมาของประวัติศาสตร์ ตัวอย่าง “พระนเรศวรกลับมากู้ชาติเมื่อปี พ.ศ.2135 แล้วจบ ท่านไปอยู่ต่างประเทศกี่ปี ทำไมท่านไม่กลมกลืนไปอยู่ที่นั่นเลย ทำไมท่านถึงกลับมาอีกตั้ง 15 ปีแล้วมากู้ชาติ” ต้องสอนอย่างนี้ “พันท้ายนรสิงห์ นายท้ายเรือที่คลองโคกขามถูกลงโทษตัดศีรษะ พระเจ้าเสือทรงให้อภัยแล้ว แต่ทำไมพันท้ายนรสิงห์ยังให้ตัดศีรษะอีก เพราะรักษากฎระเบียบ กติกากฎหมาย” ต้องสอนอย่างนี้ .. และหากครูสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ด้านไอทีควบคู่ความรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรมได้นั้น ยิ่งถือว่าประสบผลสำเร็จสูงสุด

ให้ทุกคนมองปัญหาและช่วยกันแก้ไข เพราะนี่คือ “บ้านของเรา”

สำหรับปัญหาชายแดนภาคใต้นั้น คนไทยทุกคนต้องช่วยกันให้ดีขึ้น อย่าบอกว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี เพราะถ้าเป็นการต่อสู้ในเรื่องของความคิด ก็เป็นเรื่องที่ยาก รวมไปถึงมีคนจํานวนหนึ่งที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเราต้องช่วยกัน เพราะนี่คือบ้านของเรา ทุกคนต้องมองกระจก มองให้สะท้อนให้เห็นว่า ตนเองนั้น วันนี้จะทำอะไร คิดอะไร จะอธิบายในสังคมว่าอย่างไร ส่วนกฎหมายจะต้องไม่กระทบกับใคร ทุกคนอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงมาขัดแย้งกันไม่ได้ หากมีความคิดว่าจะเปลี่ยนแปลง จะต้องคำนึงด้วยว่าจะส่งผลกระทบต่อใครอย่างไรบ้าง

ฝากสร้างศิษย์ให้มีทัศนคติที่ดี รักชาติบ้านเมือง จงรักภักดีต่อสถาบัน

นายกรัฐมนตรี ได้ฝากเรื่อง “ครูสร้างศิษย์” เพื่อให้เด็กมีทัศนคติที่ดี ไม่ใช่เพียงรักตนเอง แต่ต้องรักชาติบ้านเมือง ยึดมั่นจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหลักของประเทศ

ฝากไปยังครูและทุกกระทรวง ในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น การไปศึกษาดูงาน ขอให้ได้ประโยชน์ ไม่ใช่การไปเที่ยว และย้ำว่าให้ทุกคนใช้ความคิดใช้สมองให้มาก ๆ เพราะสมองของทั้งตนเอง และทุก ๆ คนนั้น ฉลาดกว่าคอมพิวเตอร์ แค่ต้องใช้ให้ครบทุกด้าน ช่วยกันคิดให้มาก ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง.

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 1612563-be_e0b992e0b990e0b990e0b991e0b991e0b996_0002.jpg

โอกาสนี้ “ครูวีระ เดชพันธุ์” ครูของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ฯ เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นโรงเรียนชายล้วน เมื่อปี 2518 ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เมื่อเกิดมาเป็นลูกผู้ชาย ก็อยากจะเรียนอยู่ 2 อย่าง คือ เข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา หรือเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าเป็นคนเก่งที่สามารถสอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมทหารได้ หลังสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

“ถ้าจะให้บอกในฐานะครู ก็ขอบอกว่าเราไม่เคยเห็นตัวเราเอง เพราะดูกระจกก็เห็นแค่เงา แต่ถ้ามีคนมาบอกเราให้ฟังว่า คุณพูดไม่เพราะ เป็นคนโมโหคนง่าย หรือเป็นคนที่แสดงกิริยาท่าทางอะไรที่ไม่เหมาะสม เพราะเราไม่รู้ แต่คนที่บอกเขารู้ เขาเห็น และที่เขาบอกเราแสดงว่าเขาได้ชี้ขุมทรัพย์ให้เรา”

วันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลง สังคมมีความเจริญก้าวหน้า มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามา ซึ่งมีความเจริญเร็วกว่าที่คนธรรมดาควรจะรู้ได้ เพราะฉะนั้นคนที่เป็นครูจะต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงตัวเอง นำอุปกรณ์เทคโนโลยีเข้ามาใช้ อาจจะทำให้เด็กเข้าใจได้ดีมากกว่าเดิม คนเป็นครูจะต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี ต้องมีความรัก มีความปรารถนาดี ต้องรักนักเรียน บุคลิกจะต้องเป็นคนที่น่ารัก น่าเคารพ คนเป็นครูต้องสอนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ไม่ปิดบังความรู้ ไม่ชักชวนลูกศิษย์ไปในทางที่ไม่ถูก ต้องชมเชยเมื่อเขาทำดีเมื่อมีโอกาสอันสมควรและเหมาะสม

อย่างวันนี้ ตนชมเชย พล.อ.ประยุทธ์ เพราะถึงเวลาที่ต้องชมเชย.

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 1612563-be_e0b992e0b990e0b990e0b991e0b991e0b996_0015.jpg

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการจัดงานวันครูครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครู และความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน และส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ประกอบคุณงามความดีหรือทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน และเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นหลังได้ยึดถือปฏิบัติตาม

โดยกระทรวงศึกษาธิการขอความร่วมมือให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมสัปดาห์วันครู ระหว่างวันที่ 11 – 17 มกราคม 2563 เพื่อให้ครู นักเรียน ครูภูมิปัญญาและชุมชน ร่วมมือกันทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมครูเยี่ยมบ้านเด็ก และกำหนดคำขวัญประจำสถานศึกษา เป็น “หนึ่งคำขวัญ หนึ่งสถานศึกษา” ที่สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา รวมทั้งจัดชุมนุมครู เพื่อให้ครูทุกคนได้มีโอกาสกล่าวคำปฏิญาณตน แสดงถึงการให้คำมั่นในการประกอบวิชาชีพ รับผิดชอบต่อเยาวชนและการศึกษาของชาติอีกด้วย

ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปโรงเรียนหลายแห่งทั่วประเทศ ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของคุณครูเป็นจำนวนมาก เห็นจิตวิญญาณของการเป็นครู แต่สิ่งที่ยังต้องเพิ่มเติมคือ การพัฒนาศักยภาพครูให้ก้าวทันเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 จึงขอความกรุณาจากนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาสนับสนุนให้มีการพัฒนาคุณครูได้เกิดขึ้นอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

สำหรับการจัดงานวันครู ครั้งที่ 64 พ.ศ.2563 “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย” ส่วนกลางกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 มกราคม 2563 ณ บริเวณหอประชุมคุรุสภา โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ การปาฐกถาพิเศษ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ครั้งที่ 3 เรื่อง “ความฉลาดรู้ และจิตวิญญาณความเป็นครู” โดยได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์กิตติคุณสุมน อมรวิวัฒน์ เป็นองค์ปาฐก, การเสวนา เรื่อง “โลกก้าวไกล ครูไทยก้าวทัน สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย”, การจัดแสดงนิทรรศการผลงานของกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องในโอกาสวันครู ประกอบด้วย 4 โซน ได้แก่

1) โลกก้าวไกล ประกอบด้วย 6 ความฉลาดรู้ เพื่อเท่าทันโลก
2) ครูไทยก้าวทัน ประกอบด้วย ภาพรวมของ PLC และ E-PLC TSIP ระบบกูเกิลตามระบบการบริหารโรงเรียน
3) สร้างสรรค์คุณภาพเด็กไทย ประกอบด้วย ผลงานนักเรียนที่มีทักษะ หรือสมรรถนะต่างๆ ที่โดดเด่น
4) ยกย่องผลงานวิจัย และนวัตกรรม เพื่อการเรียนรู้ และการบริหาร

สำหรับงานวันครูปีนี้ มีผู้บริหารเข้าร่วม อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการ รมว.ศธ., นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา, นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, นางรักขณา ตัณฑวุฑโฒ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา รวมทั้งผู้บริหารระดับสูง ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ข้าราชการจำนวนมาก เข้าร่วมพิธี ณ หอประชุมคุรุสภา

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 1612563-be_e0b992e0b990e0b990e0b991e0b991e0b996_0009.jpg

อานนท์ วิชานนท์ / สรุป
บัลลังก์ โรหิตเสถียร / เรียบเรียง, กราฟิก
ทีมประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา / ถ่ายภาพ

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

Website Built with WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: